วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2561

พระครูอนันตสารโสภณ


พระครูอนันตสารโสภณ
ประวัติพระครูอนันตสารโสภณ
พระครูอนันตสารโสภณหรือ พระอาจารย์ลาของเหล่าลูกศิษย์เกิด วันอาทิตย์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๙ ณ บ้านกุดตะกาบ ต.วาริชภูมิ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร บรรพชาเมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๖เมื่อ อายุ ๑๗ ปี สังกัดมหานิกาย ที่วัดบ้านธาตุ ต.วาริชภูมิ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร แล้วได้เดินธุดงค์ศึกษาทางสว่างโดยมิย่อท้อหวังมอบกายสังขารนี้ให้อยู่ในร่มธรรมของพุทธองค์ จนอายุย่างเข้า ๒๓ ปีขณะนั้นได้อยู่จำพรรษาที่ อ.เดชอุดมและคราวนั้นเอง เพศฆารวาสคงไม่ใช่แนวทางของเรา พร้อมกันนั้นก็อุปสมบท ณ พัธสีมา วัดเรืองเดช อ.เดชอุดม ตอนนั่น อายุ ๒๓ ปี เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๓๒ โดยอุปัชฌาย์ พระครูพุทธิสารสุนทร เจ้าคณะอำเภอเดชอุดมในขณะนั้น ในสังกัดธรรมยุต
ความมุ่งมั่นที่จะหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงทำให้ท่านต้องมุ่งแสวงหาครูอาจารย์เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติ ภาวนา ได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ #หลวงปู่พรหมมาเขมจาโร สำนักสวนหิน ผานางคอย อ.ศรีเชียงใหม่ จ.อุบลราชธานี และ ยังไปฝากตัวเป็นศิษย์ #หลวงปู่ลือปุญโญ แห่งวัดป่านาทามวนาวาส อ.ดอนตาล ต.มุกดาหาร ซึ่งหลวงปู่ลือนี้มีวาระในการรู้จิตคนได้ลึก อาจเป็นส่วนหนึ่งที่พระอาจารย์ลาเองได้ส่วนนี้มาหยั่งบึกถึงจิตคน แค่อ้าปากก็รู้ว่าจะเอ่ยอะไร(ผู้เขียนเจอมาเอง)
จากนั้นก็กราบลาธุดงค์มาเรื่อยๆในปี ๒๕๓๘จนถึงถิ่นบ้านหนองแสงทุ่ง ต.แวง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด อันเป็นที่พำนักของ พระอาจารย์อีกรูปหนึ่ง ที่จำพรรษาอยู่ก่อนแล้ว แต่ด้วยเหตุอันเป็นกุศลที่ได้ร่วมกันมากับชาวบ้านแถบนี้มีอันเป็นเหตุให้ท่านต้องอยู่มาเรื่อยๆ เพราะกิจนิมนต์ที่ต้องอยู่เพื่อพัฒนาป่าแห่งนี้จนเจริญมาถึงทุกวัน

พระครูอนันตสารโสภณ หรือ พระอาจารย์ลา มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะธรรมยุตตำบลแวง และ ดำรงตำแหน่งเป็นพระอุปัชฌาย์ ณ วิสุงคามสีมา วัดป่าหนองแสงทุ่งแห่งนี้ ที่ได้ประกาศจัดตั้งวัดมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๕ มาจนปัจจุบัน
 วัตถุมงคลที่พระอาจารย์ลาปลุกเสกเดี่ยว และจัดสร้างเพื่อให้ลูกศิษย์เก็บไว้บูชา
##ขุนแผนรุ่นมนเสน่ห์รุ่นแรก
#นางกสักสาวเต่ามวลสารขลังเข้ม
#ท้าวเวสสุวรรณ
#สองนางกวัก
วัตถุมงคลที่พระอาจารย์ลาปลุกเสกเดี่ยวล้วนมีพุทธคุณ ด้านเมตตา ค้าขายร่ำรวย ทั้งสิ้นทั้งปวงครับ ปากต่อปาก จนรุ่นแรกๆหายากมีราคาแพงขึ้น ณ ปัจจุบัน
ประวัติและที่มาของวัดป่าบ้านหนองแสงทุ่ง
วัดป่าหนองแสงทุ่งตั้งอยู่บ้านหนองแสงทุ่ง หมู่ 8. ตำบล แวง อำเภอ โพนทอง จังหวัด ร้อยเอ็ด เลขที่ 236 เดิมเป็นที่โนนที่ค่อนข้างสูงหรือที่เรียกว่า โคกและเป็นป่าซึ่งมีสัตว์อาศัยอยู่เช่น เสือ ช้าง และสัตว์น้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้อย่างมากมายในยุคนั้น และมีหนองน้ำอยู่ใกล้ๆโคกนี้ที่มีต้นมะขามใหญ่อยู่ข้างหนองน้ำ จึงเรียกบริเวณนี้ว่า โคกหนองขาม ซึ่งต่อมาได้มีคนกลุ่มหนึ่งที่อพยพมาจากที่ต่างๆจึงได้รวมตัวกัน และได้ตกลงกันว่าจะหาที่ตั้งหมู่บ้านโดยได้มองเห็นโนนสามโนน ที่อยู่ใกล้หนองน้ำซึ่งหนองน้ำจะอยู่กลางระหว่างสามโนนนี้คนกลุ่มนี้ซึ่งมีผู้เฒ่าผู้แก่ยังมีความชื่อเรื่องภูตผี ปีศาจ หรือภูมิเจ้าที่ จึงได้ตกลงให้มีการเสี่ยง ในการเสี่ยงทาย
โดยการปั้นเป็นรูป วัว ควาย คน ไก่ เพื่อทำการเสี่ยงทายแด่พระภูมิเจ้าที่ว่าถ้าหากรูปปั้นสัตว์อะไรล้มถึงสามครั้งก็จะได้นำสัตว์นั้นมาบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ทุกปี และเริ่มทำการเสี่ยงทายโนนแรกคือโคกหนองขาม ปรากฏว่ารูปปั้นคนล้มทั้งสามครั้งแสดงว่าพระภูมเจ้าที่ต้องการเอาคนมาบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ทุกปี ทุกคนลงความเห็นว่าไม่เอา
โนนโคกหนองขามนี้เป็นที่ตั้งหมู่บ้านก็เลยย้ายไปโนนใหม่ที่อยู่ทิศตะวันออก หรือที่เรียกชื่อว่า โนนหนองส่องแมว ก็ได้มีการเสี่ยงทายโดยการปั้นรูป วัว ควาย คน ไก่ เพื่อบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่คราวนี้ปรากฏว่ารูปปั้นวัวล้มถึงสามครั้งแสดงว่าพระภูมิเจ้าที่ต้องการวัวมาบวงสรวงทุกปี ก็เลยย้ายไปอีกโนนที่สามซึ้งโนนนี้อยู่ทางทิศตะวันตก ของหนองน้ำ ( หนองน้ำแห่งนี้มีต้นแสงเกิดอยู่จำนวนมาก ) ก็ได้ทำการปั้นรูปเสี่ยงทายเหมือนเดิมเพื่อบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ ในการเสี่ยงทายโนนนี้ปรากฏว่ารูปไก่ ได้ล้มทั้งสามครั้งก็เลยตกลงเลือกเอาโนนนี้ตั้งเป็นหมู่บ้านเพราะไก่เป็นสัตว์เล็กที่หาได้ง่าย และได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่าบ้านหนองแสงทุ่ง และต่อมาก็มีคนจากถิ่นอื่นเข้ามาอยู่
ชาวบ้านก็ได้จับจองที่ดินทำไร่ทำนา ในสมัยนั้นที่ดินใครอยากได้ก็จับจองเป็นเจ้าของเลยไม่มีการซื้อขายใดๆ  เพราะที่ส่วนใหญ่ยังเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์  ใครขยันก็จองเอาเยอะส่วนโคกหนองขามนี้ไม่มีคนกล้าลุกล้ำเพราะใครลุกล้ำมักจะเกิดเหตุเพศภัยกับตัวเองหรือเกิดกับครอบครัวก็เลยปล่อยให้รกร้าง ต่อมาชาวบ้านได้ตกลงกันว่าควรที่จะเอาเป็นป่าช้าเพราะว่าโคกนี้มีผีดุมากวันดีคืนดีมีเสียงฆ้องเสียงกลองและเสียงโห่ร้องของภูตผี และยังมีแสงไฟต่างๆมีคนเห็นประจำ ยิ่งวันพระใหญ่ยิ่งมองเห็นแสงแก้วลอย
โคกหนองขามแห่งนี้จึงเป็นที่น่ากลัวคนแถวนี้กลัวกันมาก แม้แต่เวลากลางวันก็ไม่มีคนที่จะกล้าเข้ามาโคกนี้จนคนเฒ่าคนแก่ยกที่นั้นให้เป็นที่ป่าช้ามีเนื้อที่ 100ไร่ ต่อมา ได้มีพระกรรมฐานธุดงค์มาพักปักกลดเป็นประจำปักกลดอยู่โคกแห่งนี้ อยู่ 1 วัน บ้าง 3 วันบ้างในการบำเพ็ญภาวนา จนมาถึงเมื่อปี พ.ศ. 2535 ได้มีพระทองคำ
ซึ่งท่านมีญาติอยู่บ้านนี้ได้มาปักกลดอยู่และได้สร้างสำนักสงฆ์ที่ป่าช้าโคกหนองขามแห่งนี้ อยู่มาจนถึง พ.ศ. 2538 พระทองคำ จะไปจำพรรษาอยู่ในเมืองคือวัดโคกพัฒนา ท่านจึงได้ไปอาราธนานิมนต์พระอาจารย์ลาให้มาอยู่แทนสัก 1 พรรษา พระอาจารย์ลาก็เลยมาอยู่จำพรรษา โดยท่านตั้งใจว่าจะอยู่จำพรรษาเพียงพรรษาเดียว แล้วท่านก็จะธุดงค์ไปที่อื่น แต่พอในกลางพรรษาพระทองคำที่ไปจำพรรษาอยู่วัดโคกพัฒนา ท่านได้ลาสึก พระอาจารย์ลาก็เลยจำเป็นต้องอยู่ที่สำนักสงฆ์โคกหนองขามแห่งนี้เป็นต้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2538 ตั้งแต่จึงนั้นมาจึงมีพระสงฆ์มาจำพรรษาอยู่ประจำ ตั้งแต่พระอาจารย์ลาได้มาจำพรรษาได้ดำเนินการขอสร้างวัด และได้รับอนุญาต สร้างวัดเมื่อวันที่ 20 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2540 ได้รับอนุญาตตั้งวัดเมื่อวันที่ เดือน พ.ศ. 2545 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ เดือน พ.ศ. ได้เป็นวัดสมบูรณ์ถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.ของคณะสงฆ์ไทย เป็นที่น่าอัศจรรย์มีข้อสังเกตว่าเวลาผ่านมายาวนาน
เป็นร้อยกว่าปีไม่มีใครมาบุรุกพื้นที่ป่าแห่งนี้ทั้งที่สมัยนั้นทางการไม่ได้หวงห้ามเลยคงจะเป็นบุญหรือเทวดาดลใจให้คนมองข้ามไม่สนใจป่าแห่งนี้เพื่อจะเอาไว้ให้เป็นวัด เป็นที่บำเพ็ญเพียรของนักปฏิบัติผู้ทรงศีลและของพระพุทธศาสนาสืบต่อมาเท่าทุกวันนี้เพื่อเป็นที่บำเพ็ญบุญบารมีธรรมของพุทธบริษัทต่อไปสิ้นกาลนาน.
โดยพระอาจารย์ลาได้ตั้งความสังเกตไว้ว่าป่าช้าโนนโคกหนองขามแห่งนี้ มีวาสนาหรือพระภูมิเจ้าที่ต้องการจะให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้สร้างเป็นวัดใน พระพุทธศาสนาเพราะว่าสมัยก่อนชาวบ้านจะตั้งเป็นหมู่บ้านก็ตั้งไม่ได้ หรือชาวบ้านจะจับจองก็มักจะเกิดเหตุเพศภัยต่างๆชาวบ้านก็ไม่กล้าจับจองปล่อยให้รกร้างมาเป็นเวลาเป็นร้อยๆปี แต่พอได้ดำเนินการตั้งเป็นวัดในพระพุทธศาสนาโดยไม่มีเหตุการณ์ร้ายใดๆ และดำเนินการสร้างเป็นวัดโดยความสวัสดิภาพและอยู่ร่มเย็นตราบเท่าทุกวันนี้แล.
สำหรับวัตถุมงคล​ที่พระอาจารย์​ลา​ ออกเอง​ มีไม่มากครับยกตัวอย่าง​  ขุนแผนรุ่นสาวเต่า​ ท้าวเวสสุวรรณ​ พระปิดตาว่านสบู่เลือด​ พุทธคุณ​ด้านเมตตา​ มหา​นิยม​ ค้าขายดี​ เป็นที่ถามหาในหมู่พ่อค้าแม่ค้า​ บางรุ่นซื้อหากัน​ราคาแพงพอควร แต่ตอนนี้​บางรุ่นเก็บเงียบ
สำห​รับ​วัตถุมงคล​ที่ยังสามารถ​บูชาได้ตอนนี้​ คือ​ ล็อคเก๊ตรุ่น​ "รวยอนันต์" และลูกอม"รวยอนันต์" สิบปากว่าไม่เท่าบูชาไปใช้เองครับ
ล็อคเก๊ตรุ่น"รวยอนันต์" ผ่านการอธิษฐาน​จิตโดย
หลวงปู่ฮก​ รติ​ธ​โร​วัดราษฎร์​เรือง​สุข​
หลวงปู่เกตุ​ วัดทับเจริญ​
และผ่านพิธีพุทธาภิเษก​ใหญ่มาแล้ว​ อยากให้ท่านใช้ดู
**สนใจ​ 063-5398914

**ID​Line​:theoum​1972

































กับอีกรายการที่พุทธคุณ​แรงสุดตอนนี้​ 
ขุนแผน​อุดมทรัพย์​ ด้วยมวลสารที่รวมรวมมานานของพระอาจารย์​ลา​ และยังมีผงมวลสารหลวงปู่ทิม
จึงทำให้วัตถุมงคล​ชุด้เป็นที่โจษขาน​ ทั่วปนะเทศ​ ลองใช้ดูครับ​ พิสูจน์​กับตัวท่านเอง

1 ความคิดเห็น: